รูปปั้นในสวน
วันหนึ่งนิดและหน่อยเล่นของเล่นต่างๆในบ้านจนเบื่อแสนเบื่อ
ตั้งแต่วงกลมสีน้ำเงินอันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย ก็ไม่มีเรื่องสนุกๆอีก
นิดคิดถึงของสะสมอย่างหนึ่งขึ้นมาได้
เป็นของที่เก็บไว้นานจนเกือบลืม
จึงเอามือเอื้อมไปหยิบกล่องขนมเก่าทำด้วยเหล็กที่หลังตู้ลงมา
ข้างในมีตุ๊กตาเล็กๆน่ารักที่ทำท่าทางต่างๆมากมายหลายแบบ คล้ายกับรูปปั้นจิ๋ว
มีทั้งท่านั่ง ท่านอน ท่ายืน และท่าอื่นๆอีกมากมาย
นิดเอาตุ๊กตาเหล่านั้นมาเรียงรายกันในแนวเลื้อยไปมาที่พื้นห้องนอน
อย่างเพลิดเพลิน เพียงเท่านี้เขาก็รู้สึกว่าสนุกมากแล้ว
ส่วนหน่อยหันไปผสมสารอะไรเล่น
ดูเหมือนจะเป็นชุดสำเร็จที่แม่เคยซื้อไว้ให้เล่นนานแล้ว ท่าทางจะสนุกมากเหมือนกัน
หน่อยพูดกับนิดว่า “ถ้าผสมถูกหลักนะ จะสามารถนำไปรดน้ำต้นไม้ในสวนให้เจริญเติบโตสวยงามผิดหูผิดตาได้เลยนะ”
แต่ขณะที่หน่อยพูดเสร็จกำลังจะลุกขึ้นไปหยิบน้ำมาเติม
พลันพนักเก้าอี้ก็หมุนไปโดนถ้วยสารเคมีที่วางหมิ่นแหม่อยู่ที่โต๊ะ
ตกลงมาหกกระจายโดนตุ๊กตาของนิดเข้า
ไม่ช้า เกิดสิ่งมหัศจรรย์ ตุ๊กตาทุกตัว โตขึ้นๆและดูเหมือนจะมีชีวิตด้วย
พวกเขาพูดได้และกระดิกตัวไปมา แต่ไม่สามารถเปลี่ยนท่าทางที่เป็นอยู่ได้
พวกมันได้แต่หัวเราะคิกคัก ราวกับว่า การมีชีวิต เป็นเรื่องสนุกเสียเหลือเกิน
นิดและหน่อย ต่างอึ้งกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
ตุ๊กตาตัวหนึ่งพูดขึ้นว่า “ช่วยพาพวกเราออกไปข้างนอกหน่อยซิ
เราอยู่ในกล่องจนเบื่อแสนเบื่อ อยากเห็นโลกภายนอกบ้าง” ตุ๊กตาตัวอื่นๆ
ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อนิดกับหน่อยหายงงแล้ว จึงปรึกษากัน
และยื่นข้อเสนอว่าจะพาตุ๊กตาซึ่งตอนนี้มีขนาดใหญ่พอควรออกไปตั้งไว้แซมตามกระถางต้นไม้ที่ปลูกไว้ด้านนอกในสวนหลังบ้าน
พ่อแม่จะได้ไม่ว่าอะไร “ พวกเธอห้ามดุกดิกเวลาพ่อแม่ฉันมาเห็นนะ” นิดเน้นย้ำ
เหล่าบรรดาตุ๊กตายอมทุกอย่างเพียงขอให้ได้ออกไปข้างนอกเท่านั้น
เพราะรอคอยเวลานี้มานาน เมื่อนิดและหน่อย
พาพวกมันไปตั้งแทรกตามที่ต่างๆในสวนหลังบ้านจนหมดแล้ว ทุกตัวต่างมีความสุขมากที่ได้เห็นแสงแดดอ่อนๆ
และต้นไม้ใบหญ้า
นิดและหน่อยกลับเข้าบ้านไม่นาน ก็ได้ยินเสียงฝนตก
พร้อมๆกับได้ยินเสียงเหมือนกับมีใครร้องเพลงประสานเสียงกันอย่างไพเราะเพราะพริ้งมาก
เป็นเสียงเพลงแห่งความสุข นิดและหน่อยมองตากัน และพูดพร้อมกันว่า “อย่าบอกนะว่าเป็นเสียงของตุ๊กตาพวกนั้น”
ทั้งสองวิ่งแข่งกันถือร่มออกไปดู จริงๆด้วย พวกตุ๊กตาร้องเพลงกันใหญ่
ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย
“ตายล่ะ ถ้าพ่อแม่ได้ยินเข้า
พวกเราสองคนจะทำยังไง หยุดร้องเถอะ” นิดขอร้องตุ๊กตา ตุ๊กตาตัวหนึ่งพูดอธิบายว่า
“เราหยุดไม่ได้ พอฝนตก พวกเรารู้สึกมีความสุขมาก จนต้องร้องเพลงออกมาดังๆ
เรากำลังมีความสุข จริงๆนะ ให้เราร้องเถอะ” นิดเอามือกุมหัว “ทำไงดีๆ”
หน่อยสะกิดให้นิดเข้าบ้าน และแกล้งเปิดวิทยุให้ดังเพื่อกลบเสียงร้องของตุ๊กตา
“สองคนนี้ ทำอะไรกัน พ่อกับแม่จะดูทีวี
เสียงดังมาก รบกวนนะ” พ่อลงมาต่อว่าจากชั้นบน”
“คือว่าเราต้องซ้อมเต้นรำในงานโรงเรียนค่ะพ่อ” หน่อยแก้ตัว “พอดี ฝนมันตก
เราเลยเปิดค่อยๆไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ยินเสียงเพลง ต้องเปิดดังกลบเสียงฝนค่ะ”
“เอาล่ะๆ เสร็จเมื่อไร ก็ปิดแล้วกัน พ่อกับแม่คงต้องปิดประตูหน้าต่างห้อง
ถึงจะดูทีวีได้” พ่อพูดอย่างอารมณ์เสีย
ก็ยังดีกว่าออกไปตามหาแหล่งเสียงเพลงข้างนอก เด็กสองคนคิด
เมื่อฝนหยุดตก ทั้งสองปิดวิทยุ
และรีบรุดออกไปดูตุ๊กตา ปรากฏว่านิดกับหน่อยมองไม่เห็นตุ๊กตาเหล่านั้นเลย
ทำให้รู้สึกแปลกใจมาก จึงเดินเข้าไปสำรวจ ที่แท้ ตุ๊กตากลับไร้ชีวิตและตัวเล็กลงเท่าเดิมเสียแล้ว
“คงเป็นเพราะน้ำฝนได้ชะล้างสารเคมีของฉันออกจากตุ๊กตาจนหมดแล้ว” “โธ่
ตุ๊กตาที่น่าสงสาร” นิดรู้สึกเสียใจแทนตุ๊กตา
แล้วสองพี่น้องก็ค่อยๆช่วยกันเก็บตุ๊กตาเข้าบ้าน นำไปเช็ดจนแห้ง
และวางมันกลับเข้ากล่องขนมเหล็กเก่าๆใบนั้นเหมือนดังเดิม โชคดีจัง ที่พ่อแม่ไม่รู้
เพลง สายฝน
สายฝน สายฝน
โปรยปราย
พาพวกเราสบายกาย
สดชื่น
เรามีความสุข
เรามีความสุข
ร้องเพลงเริงรื่น
ชื่นบานเอย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น