วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

นิทานหอศิลป์ 56 เรื่องที่ 5



สวนสัตว์กับความฝัน

วันนี้พ่อกับแม่พานิดและหน่อยไปเที่ยวสวนสัตว์ ได้พบเห็นสัตว์ต่างๆมากมาย น่าสนใจทั้งนั้น
ตกกลางคืน นิดฝันไปว่า ตนเองกำลังล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ไม่สามารถมองเห็นฝั่งและไม่มีที่ยึดเกาะ สักพัก ก็พบเต่าตัวหนึ่งลอยผ่านมา จึงคิดจะเกาะกระดองเต่าไว้ เมื่อแตะถูกตัวเต่า พลันเต่าตัวนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นมากจนกลายเป็นเกาะแห่งหนึ่ง ที่มีพื้นที่ทั้งหมดปูลาดด้วยกระเบื้องใสสีเขียว
ในฝันนั้น นิดรู้สึกว่ากระเบื้องน่ากินมาก จึงหยิบขึ้นมาแผ่นหนึ่งมาเคี้ยวดู ปรากฏว่ามีรสชาติอร่อย คล้ายกับแผ่นน้ำตาลมีรสหวานและเผ็ดนิดๆคล้ายๆมินท์ ชิมจนพอใจแล้ว จึงเดินสำรวจต่อไป พบบันไดสีเหลือง มีแต้มสีน้ำตาล จึงลองเดินตามทางบันไดขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ไปถึงยอดสุด จึงรู้ตัวว่า ตนกำลังเดินไต่คอยีราฟยักษ์ขึ้นมาบนหลังยีราฟ
บนหลังยีราฟนั้น มีฝักบัวรดน้ำอันเล็กๆสีแดง นิดหยิบเอามารดดู ปรากฏต้นไม้อมยิ้มผุดขึ้นมาจากหลังยีราฟ  อมยิ้มแต่ละอันมีหน้าของแพนด้า หมี  กระต่าย  และสัตว์ป่าอื่นๆอีกหลายตัว นิดดึงขึ้นมาหนึ่งอัน ยังไม่ทันที่จะชิมดู ก็ได้ยินเสียงหน่อยร้องตะโกนมาแต่ไกลว่า “ช่วยด้วยๆ นิด ช่วยพี่ด้วย”
นิดรีบกระโดดลงจากลานหลังยีราฟ ซึ่งก็ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะมันคือความฝัน แล้ววิ่งไปตามเสียง พบว่า หน่อย พี่สาวลื่นตกลงไปในบ่อที่เต็มไปด้วยลูกบอลสีชมพู ที่ดูเหมือนกำลังรุมล้อมไต่ตัวหน่อยไม่ละลด

นิดไม่รู้จะทำยังไง เลยปาอมยิ้มที่ถือมาลงไปในบ่อ ปรากฏว่า ตัวกลมๆพากันกระโดดออกมากลายเป็นกระต่าย ออกมากันเรื่อยๆจนหมดบ่อ ทำให้หน่อยรอดจากการถูกรุม
สองพี่น้องพากันไล่จับกระต่ายเหล่านั้นจนเหนื่อยล้า ก็ยังจับไม่ได้ซักตัว กระต่ายสีชมพูทุกตัว เห็นแล้วตาลายมาก ไม่นานนักเด็กทั้งสองก็หมดแรง ล้มลงนอนแผ่อยู่บนสนามหญ้า มารู้ตัวอีกที สนามหญ้าเคลื่อนที่ได้อีกแล้ว เอ๊ะ เราอยู่บนตัวอะไรแน่เลย เด็กๆลองทายดูซิ
เด็กๆนอนอยู่บนหัวของกระต่ายยักษ์สีเขียวที่กำลังกระโดดไปมา เด็กๆตะโกนว่า “เลิกกระโดดซะทีได้ไหม พวกเราจะหล่นอยู่แล้ว” แล้วมันก็หยุด มันถามว่า “อยากให้ฉันพาไปไหนไหมล่ะ” “อยากซิ พวกเราอยากกลับบ้าน” นิดตะโกน กระต่ายใจดีจึงลุกขึ้นเดินอีกครั้ง คราวนี้มันค่อยๆย่องเบาๆ และแกล้งทำเป็นหลับตาพักผ่อนอยู่ใต้ร่มไม้
นิดกับหน่อยไม่รู้ว่ากระต่ายทำอย่างนั้นทำไม จึงถามว่า “เจ้ามานอนอยู่แบบนี้ แล้วพวกเราสองคนจะกลับถึงบ้านได้อย่างไร” กระต่ายจึงพูดขึ้นว่า “รอก่อนนะ ฉันกำลังวางแผนล่อเต่าให้มาทางนี้” “เต่าเหรอ” “ใช่ ...ฉันกับเต่าตัวนี้แข่งกันสิ่งทุกปี แต่ฉันไม่เคยชนะ เพราะเต่าเมื่อรู้ว่าฉันหลับก็จะเดินเข้ามาใกล้ๆ เพื่อดูให้แน่ใจว่าฉันหลับจริง จากนั้นเขาจะเดินเร็วขึ้นแบบแทบไม่หายใจเลย ดังนั้นฉันจึงแพ้เขาทุกปี”
“ตอนนี้ ฉันกำลังใช้แผนเดิมเพื่อล่อให้เขาเดินเข้ามาหาฉัน เพราะถึงแม้จะไม่แข่งขันกัน เขาก็ยังคงสนใจว่าฉันหลับจริงหรือเปล่า เขาคงสงสัยว่าทำไมฉันถึงหลับได้หลับดี” กระต่ายพูดแล้วก็แกล้งนอนต่อไป ไม่นานนัก ก็มีเต่าตัวหนึ่งเดินมาดังกระต่ายว่า เมื่อเต่าเดินเข้ามาใกล้ กระต่ายจึงลืมตาขึ้นและว่า “ทีนี้ฉันไม่ได้หลับจริงหรอก แต่ฉันอยากฝากเด็กสองคนนี้ เดินทางไปกับแก ไปในท้องทะเลกว้างจะได้ไหม” เต่าไม่พูด แต่เต่าใจดี ผงกหัวหงึกๆ

เต่าให้เด็กๆขึ้นเกาะหลัง แล้วพาลงทะเล ลอยละล่องไป ไกลแสนไกล ไกลแสนไกล จนเด็กๆเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อลืมตาขึ้น นิดก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวนั่นเอง โอ้ การไปเที่ยวสวนสัตว์จริงๆ กับเที่ยวในฝันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น: