วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

นิทานหอศิลป์ ตอนที่ 6 พวกยาว


พระเจ้าทรงดำริว่า พระองค์ทรงปั้นแต่แป้งที่เป็นรูปกลมๆมาตลอด น่าจะปั้นอะไรที่เป็นรูปยาวๆบ้าง สำหรับดาวดวงที่ 6 นี้ เราจะปั้นสามตัว ตัวแรกก็ก้อนกลมๆสองก้อนติดกันเหมือนเดิม แต่มีจมูกยาวๆเลย เอาหูใหญ่ๆด้วย ขาก็เหมือนเดิมไปก็แล้วกัน แค่คิดก็สนุกแล้ว ตัวต่อไปนะ เอาหัวกับตัวแยกกัน ต่อคอให้ยาวๆ หางก็ยาวๆแหลมๆด้วย ขายังคิดไม่ออกเอาเหมือนเดิมไปก็แล้วกัน ใช่แล้ว อีกตัวเราจะให้ทั้งคอยาว ขายาวเลยดูซิว่าจะเก้งก้างขนาดไหน ปั้นไปก็ทรงขำไป เอ้าตัวนี้หางไม่ต้องสั้น เดี๋ยวจะทรมานมากเกินไป ปั้นเสร็จ พระองค์ก็ทรงโยนไปด้วยคาถาไปตกที่ดาวดวงที่ 6 รอสักครู่หนึ่งพระองค์จึงหยิบแว่นคู่ใจมาส่องดู

ที่ดาวดวงนั้น เด็กชายปิงปองของเราเล่นที่ดาวดวงที่ 5 เพลิดเพลินไปหน่อย เดินหลงทางมายังดาวดวงที่ 6 แถมยังพลัดตกลงไปในหลุมใหญ่ลึก ไม่สามารถขึ้นมาได้ ปิงปองที่น่าสงสาร ร้องของความช่วยเหลืออยู่นาน เจ้าตุ๊กตาแป้งสามตัวของเราก็โผล่มาพอดีจึงตรงเข้าช่วยเหลือ แต่ตัวที่จมูกยาวไม่สามารถยื่นจมูกลงไปเกี่ยวปิงปองขึ้นมาได้ ตัวคอยาวทั้งสองจึงลองยื่นคอลงไปอย่างสุดความสามารถ ตัวคอยาวขาสั้น มีคอที่ยาวมาก ตัวที่ขายาวกว่ายังไปไม่ถึงปิงปอง ในที่สุดตัวที่คอยาวกว่า ก็สามารถดึงปิงปองขึ้นมาได้ ทั้งสามเป็นเพื่อนที่ดีจากนั้นมา

ปิงปองยังคงอยากหาทางกลับบ้านอยู่ ท้องก็ร้อง รู้สึกว่าหิวแล้ว ไม่ทันรู้ตัว เจ้าคอยาวกว่าเพื่อนก็เอากล้วยทั้งเครือมาให้ ปิงปองรู้จักกล้วยดี จึงดึงแต่ลูกสีเหลืองออกมากิน เจ้าคอยาวกว่ากินแต่ลูกสีเขียว จนตัวกลายเป็นสีเขียว ส่วนเจ้าขายาวชอบกินลูกสีเหลือง ทั้งลูกที่มีด่างดำๆมันก็ไม่รังเกียจ ตัวมันจึงกลายเป็นสีเหลืองลายดำ ส่วนเจ้าหูใหญ่กินไม่ทัน กล้วยหมดซะก่อน จึงเดินไปหักต้นอ้อยกิน จนกระทั่งตัวกลายเป็นสีน้ำตาล ปิงปองให้ชื่อว่า กรีน เยลโล่ และบราวน์

เดินทางไปเรื่อยๆ จนเริ่มมืด ปิงปองรู้สึกง่วงมาก ไม่รู้ว่าจะนอนที่ไหนดี เจ้าเยลโล่เลยอาสาที่จะทำตัวเป็นเสาเต้นท์ให้ จากนั้นเจ้าบราวน์ก็ไปดึงเถาวัลย์มาพาดตัวเจ้าเยลโล่กลายเป็นม่าน ปิงปองเข้าไปนอนอย่างมีความสุข แต่เอะ เจ้ากรีนหายไปไหนน้า คงจะไปหาที่นอนเหมาะๆละมั้ง คิดดังนั้นแล้ว ต่างคนต่างนอน เยลโล่ไม่กลัวนอนยากเพราะเอาคอพาดไว้กับกิ่งไม้ ส่วนเจ้าบราวน์แผ่หลาบนพื้นอย่างเป็นสุข

ตื่นเช้าขึ้นมาทุกตัวพากันไปเล่นน้ำ บราวน์พ่นละอองน้ำใส่ปิงปองอย่างสนุกสนาน ไม่นานเจ้ากรีนก็โผล่มา มันไม่ลงอาบน้ำเหมือนคนอื่นๆ มันเล่าว่า "เมื่อคืนนี้ ฉันเดินไปเจอทะเลสาบแห่งหนึ่งสวยงามมาก ฉันจึงลงเล่นในทะเลสาบนั้น รู้สึกสดชื่นมากเป็นพิเศษ นานๆทีก็จะมีดอกไม้สีขาวโผล่ขึ้นมาจากกลางทะเลสาบ เมื่อลองดมดู มันมีกลิ่นหอมมาก แต่เมื่อฉันจับมัน มันทำให้ฉันสลบ และรู้สึกเหมือนได้ล่องลอยไปไกลแสนไกล พบสถานที่ที่มีเมฆมากมาย มีคนแต่งตัวสวย และ มีท่านผู้เฒ่าทรงภูมิด้วย

เมื่อปิงปองฟังแล้ว ก็รู้ได้ในทันทีว่าที่นั่นคือบ้านของปิงปอง จึงขอให้กรีนพาเขาไป ขณะที่ทุกตัวกำลังเดินทางไปอยู่นั้น พลันพื้นดินที่ตามมาก็ค่อยๆยุบตัวลง กว่าจะรู้ตัวก็พบว่าพื้นดินทั้งหมดกำลังยุบพังลงเข้าหาศูนย์กลาง ทุกคนฉวยจับอวัยวะของแต่ละคน กลายเป็นว่า ปิงปองห้อยอยู่ปลายสุด โดยยึดจมูกของบราวน์ไว้ เยลโล่งับหางของบราวน์ด้วยปาก กรีนงับหางเยลโล่อีกที หางของกรีนนั้นเกี่ยวต้นไม้บนดินต้นหนึ่งอยู่ มันเป็นต้นที่สูงยาวมาก สุดท้ายปิงปองจับจมูกบราวน์ไม่ไหว มือลื่นหลุด แต่เดชะบุญที่ดอกไม้สีขาวลอยมาจากไหนไม่รู้ ด้วยปฏิภาณการเอาตัวรอด ปิงปองจึงจับดอกไม้สีขาวดอกนั้นไว้ สุดท้ายเขาได้กลับมายังสรวงสวรรค์ของเขาตามเดิม ส่วนตัวอื่นๆก็สุดที่จะคาดเดาว่าเป็นเช่นไร

พระเจ้าอยู่ที่สวรรค์ร้อง "อุ๊บ แป้งปั้นดาวดวงนี้มันแห้งไปหน่อยนะ ถล่มบ่อยจัง ดีนะที่เราโยนดอกไม้ไปช่วยเจ้าปิงปองได้ทัน"

(ผลงานเด็ก๐จากนิทานเรื่องนี้)


ไม่มีความคิดเห็น: