วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กล้วยน้ำว้ากับอะไรก็ได้ หรือไมโลกับอะไรก็ได้


ลูกชายคนโตอยู่ปีสอง มหา'ลัยแล้ว เช้าวันหนึ่งในเดือนธันวา ก่อนไปมอ คว้ากล้วยน้ำว้ามากินกับไมโลที่ชงเองหนึ่งถ้วย
ถามว่า ลูก แม่เพิ่งเคยเห็น คนกินกล้วยน้ำว้ากับไมโล ลูกตอบว่า แม่ไม่รู้หรือว่ามันเข้ากันได้ดีมาก และอร่อยด้วย
ใครอยากลองก็ไม่ได้หวงห้ามเลยนะ อาหารเช้าแบบนายติ๊งเขาเนี๊ยะ

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไปจามจุรีสแควร์ได้ของถูกใจ

วันนี้เป็นวันหยุดรัฐธรรมนูญ อยากไปเที่ยวกับลูก ลองถามดูก็ไม่มีใครอยากไปไหน เลยติดรถยุ้ยไปจามจุรีสแควร์ เดินเที่ยวหาของเล็กๆน้อยๆที่ถูกใจ ก็ได้กล่องพลาสติกยาวๆสำหรับใส่พู่กันมา 1อัน กับสีอะคิลิกขวดๆ 3สีที่ชอบ

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552


เปิดเจอในเว็บไซต์สอนเด็กที่เย็บผ้าไม่เป็น ให้ทำหมอนที่ไม่ตัองใช้จักรเย็บผ้า เราก็เลยได้ไอเดียเอามาทำตุ๊กตาผ้าที่ไม่ต้องใช้จักร ได้ตัวนี้มา อยากทำอีก แต่คงไม่มีเวลา เหมือนเคยแหละ เซ็ง

ทดลองdrawingด้วยโปรแกรมโฟโต้ชอป ได้ภาพนี้

และภาพนี้

ในชีวิตนี้ ได้เคยวาดรูปมามาก แต่ภาพในหลวงนี้ น่าจะเป็นภาพที่วาดแล้วพอใช้ได้มากที่สุด

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครน่ารักกว่ากัน



เด็กนั่งสมาธิ
ใครจะน่ารักกว่ากัน

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานนี้ที่ภูมิใจมากๆ ทำในโฟโต้ชอป

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หัวข้องานศิลปะสำหรับเด็ก

1.แถบกระดาษสีเข้ม-แถบกระดาษสีอ่อน-ปะบนกระดาษ-ตามด้วยการลงสี
2.ขยุ้มกระจุกกระดาษติดบนแผ่นกระดาษ-ปิดกระดาษแผ่นใหญ่ทับด้านบน-ตามด้วยการลงสี
3.เขียนเส้นรอบนอกของสิ่งของ เช่น มือที่กางออกของตัวเอง-ภายในขีดเป็นริ้วหรือลวดลาย-ลงสีสลับกันให้สวยงาม
4.ชั้นของสิ่งต่างๆ-เริ่มด้วยการขีดเส้นแนวนอนกว้างๆขวางกระดาษทั้งแผ่น-เติมแต่ละชั้นให้เต็มด้วยการวาดภาพสิ่งต่างๆ
5.ผสมสีกับกาว-ป้ายลงบนกระดาษ-ใช้หวีขูดให้เป็นแถบให้สีผสมกันเองตามธรรมชาติ
6.สกีอตเทปปิดบนงานที่ทำเสร็จไปแล้วบางส่วน-ระบายสีน้ำทับ-จะติดบ้างไม่ติดบ้าง
7.วาดรูปด้วย 2บี -ระบายสีน้ำทับ-ได้ภาพชวนสลดใจ
8.ประดิษฐ์ชื่อตัวเองด้วยการออกแบบลายเส้น-เด็กชอบมาก-ขอบอก
9.ตัดภาพจะนิตยสารมาจัดองค์ประกอบใหม่-เด็กวัยรุ่นชอบอีกเหมือนกัน
10.ต่อเติมเสริมภาพ-เด็กที่มีจินตนาการจะชอบ-คุณจะได้เห็นภาพที่เหลือเชื่อ
11.

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มะลิแย้ม


มะลิแย้ม ทำต่อจากมะลิตูม ด้วยการใช้กรรไกรขลิบให้กลีบแยกออกจากกัน แล้วใช้ปลายอุ้งมือ ค่อยๆรวบปลายเข้าหากัน

มะลิตูม-พื้นฐานการปั้นดอกไม้ด้วยดิน


แรกเริ่มเรียนการทำดอกไม้ด้วยดินไทย
เราควรเริ่มจากการปั้นดอกมะลิตูมให้เคยมือและได้รูปสวยดังภาพ
เพราะสิ่งนี้สามารถต่อยอดไปทำดอกไม้ชนิดอื่นๆได้อย่างไม่รู้จบ
หมายเหตุ:ที่เห็นเป็นแนวกลีบ เกิดจากการใช้กรรไกรปลายแหลมเล็ก คีบเบาๆให้เป็นรอย

รายการศิลปะที่ทำจากดินไทยทั้งหมด

-ดอกมะลิตูม
-ดอกมะลิแย้ม
-เข้ามะลิทรงพุ่มสองแบบ
-ช้างกระ
-กล้วยทั้งต้นและดอกเห็ดประดับ
-พุ่มส้มเล็ก
-ดอกแคททรียาเล็ก
-ดอกเอื้องคำ
-พุ่มสตรอเบอรี่เล็ก

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

นิทานเรื่องหมูจอมตะกละ (นิทานหอศิลป์ปี 52)

มีหมูตกละตัวหนึ่งเห็นอะไรแปลกๆ ก็ชอบที่จะงับกินเข้าปากโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา
วันหนึ่งหลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ หมูก็เดินเที่ยวเล่นไปในสวนหลังบ้าน
พบของประหลาดเข้าชิ้นหนึ่งดูคล้ายกับลูกแก้วหลากสี
มันคิดว่าเป็นลูกอมที่น่าลิ้มลอง จึงงับกลืนเข้าไปในท้อง
หลังจากนั้นไม่นาน มันเริ่มรู้สึกตัวว่ามีอาการแปลกๆคล้ายๆกับไม่ใช่ตัวเองอีกต่อไป
ไม่นานก็มีนางฟ้าองค์หนึ่งปรากฏตัวขึ้นทำท่าเท้าสะเอวดูขึงขัง พูดกับหมูว่า
"เจ้าหมูตะกละ รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป นั่นน่ะ เป็นของเล่นวิเศษที่พวกฉันกำลังเล่นกันอยู่
แล้วบังเอิญทำหล่นลงมา เธอกินมันเข้าไปพวกฉันก็ไม่มีอะไรจะเล่นซิ"
หมูถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางฟ้าตอบว่าจะทำให้หมูเปลี่ยนสีตัวไปเรื่อยๆ
พูดจบนางฟ้าก็หายตัวไป ส่วนหมูก็เริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีน้ำตาล
เพื่อนๆพบเข้าก็พากันรังเกียจเพราะดูไม่เข้าพวก
หมูจึงต้องเดินไปหาที่อยู่ใหม่ ไม่นานก็พบหมี จึงคิดว่าน่าจะอยู่ร่วมกับหมีได้
หมีไม่รังเกียจเพราะสนใจที่จะนอนมากกว่า แต่เวลาผ่านไปสักพัก สีตัวของหมูก็เริ่มเปลี่ยนอีก
ตอนนี้หมูเปลี่ยนเป็นสีขาวดำ มองดูไม่ใช่หมีทั่วไป หมีลืมตาตื่นมาเห็นเข้า ก็รู้ว่าไม่ใช่พวกเดียวกัน
จึงขู่ตะเพิดหมูให้ออกไปจากที่ของตน
ตอนนี้หมูซึ่งมีตัวเป็นสีขาวดำมองเผินๆคล้ายหมีแพนด้า กำลังคิดหนักว่าตนจะหาที่อยู่ใหม่ที่ไหนดี
ไม่นานหมูได้เดินมาถึงสวนสัตว์ประจำเมือง พบว่าตนเข้ากับหมีแพนด้าได้ จึงปืนกรงเข้าไปอยู่ด้วย
หมีแพนด้าต้อนรับหมูด้วยคิดว่าเป็นพวกเดียวกับตน มันพูดขึ้นว่า
"สวัสดี เกลอตัวใหม่ ยินดีต้อนรับ ที่นี่มีใบไผ่ให้กินกันไม่อั้นเลยแหละ"
หมูดีใจ เข้าไปอยู่กับหมีแพนด้าที่เป็นมิตรอย่างอบอุ่น
แต่ไม่นานก็เริ่มเบื่อกับการกินแต่ใบไผ่เพียงอย่างเดียว
มันจึงออกเดินหาที่อยู่ใหม่ ขณะที่ตัวของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา
มันตัดสินใจไปอยู่กับแรด ด้วยเห็นว่าแรดสายตาสั้น มองไม่เห็นมันถนัดนัก
แต่ไม่ทันไร แรดก็สังเกตเห็นว่า หมูแม้จะมีสีเทา แต่ก็ไม่มีนอเหมือนตน จึงไล่หมูออกจากกรงไม่ให้อยู่ด้วย
หมูน่าสงสาร ไม่รู้ว่าจะไปอยู่กับใครที่ไหนดี เดินสะเปะสะปะอย่างจนหนทาง
ทันใดนั้นเอง นางฟ้าองค์เดิมก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับพูดด้วยความยินดีว่า
"นี่แน่ะ เจ้าหมูตะกละ ฉันมีทางออกให้เราทั้งสองแล้ว เอ้า กินนี่เข้าไป นี่เป็นยาที่พวกเราช่วยกันปรุงขึ้นมา
เพื่อให้เจ้าสามารถคายลูกแก้วของพวกเราออกมาได้"
หมูดีใจรีบกลืนยาเม็ดนั้นเข้าไปอย่างว่าง่าย ไม่นานหมูก็คายลูกแก้วออกมา อาการต่างๆก็หายไป
นางฟ้าหยิบลูกแก้วแล้ว ก็รีบบินกลับสวรรค์ไปในทันที
ส่วนหมูนั้นดีใจเป็นล้นพ้นราวกับยกภูเขาออกจากอก
รีบวิ่งกลับบ้านไปหาพวกพ้องทันที

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

นิทานเรื่องตึกกับต้นไม้

นิทานหอศิลป์ ปี 52

ต้นไม้ใหญ่ อยากเปลี่ยนแปลง


ต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตอยู่ข้างๆตึกสูง พูดกับตึกว่า "ฉันเบื่อเหลือเกินที่ต้องยืนอยู่กับที่แบบนี้มา 20-30 ปี"
ตึกพูดตอบว่า "ฉันว่าเธอน่าจะเบื่อน้อยกว่าฉันนะ เพราะเธอยังมีส่วนที่ขยับเขยื้อนได้บ้าง ฉันเองนอกจากจะขยับไม่ได้แล้ว ยังอยู่มานานกว่าเธอหลายสิบปี"
ต้นไม้พูดต่อว่า "แต่ก็เรียกว่าต้องอยู่กับที่อยู่ดีด้วยกันทั้งคู่ อย่างของเธอยังมีคนเดินเข้าเดินออกมีกิจกรรมมากมายให้คลายเบื่อ"
ตึกพูดบ้างว่า "เธอก็ดูน่าจะมีความสุขกับเหล่าบรรดาสัตว์น้อยๆ ที่ทยอยกันมาอาศัยกิ่งก้านและใบอ่อนของเธอ อย่าง นก กระรอก แมลงต่างๆนั่นไง น่าสนุกดีออก"
ต้นไม้ตัดบท "ถึงยังไง ก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี ฉันอยากเห็นโลกกว้างบ้าง อยากเห็นสถานที่ที่แปลกๆออกไป ฉันกำลังจินตนาการว่า ถ้าเราเดินได้ขึ้นมา โลกจะเป็นอย่างไรหนอ"
"เราจะเดินไปชมทัศนียภาพทุกมุมโลกที่ต่างออกไปจากนี้" ตึกพูดอยากมีความสุข
"ฉันจะสะบัดโบกกิ่งใบของฉันรับลมในที่ต่างๆอย่างเริงร่าเลยเชียว"ต้นไม้มีความสุขบ้าง
ตึกเกิดกังวลจึงพูดขึ้นว่า "ถ้าฉันไปย่ำที่ไหน ที่นั่นคงจะเดือดร้อน เพราะฉันตัวใหญ่มาก ขนาดที่ว่าใครจะเปรียบอะไรว่าใหญ่ ยังบอกว่า ใหญ่อย่างกับตึก"
"ถ้าพวกเราเดินได้ โลกนี้คงกลับตาลปัตร มนุษย์และสัตว์ใหญ่น้อยอาจจะไปไหนมาไหนไม่ได้"
"มนุษย์จะต้องบ้าตายแน่ๆ เพราะพวกเขาอยู่นิ่งๆไม่เป็น"ตึกออกความเห็น
"กระนั้นแล้วสมองเขาก็แล่นอยู่ตลอดเวลา เห็นว่ามีโครงการอะไรต่ออะไรผุดขึ้นจากสมองของพวกเขาอยู่เรื่อย"
ต้นไม้ยังมีจินตนาการอยู่ เลยพูดต่อว่า "นี่เธอรู้ไหม เราน่ะเดินทางมาครึ่งโลกแล้วนะ ระหว่างที่เราคุยอยู่นี่"
ตึกก็เล่นตามมุข "เรามาถึงนอกโลกด้วยซ้ำ ดูซิเห็นดาวเสาร์โน่นไหม มีวงแหวนสวยงามมาก"
"ดาวเคราะห์น้อยนั่นล่ะ เหมือนสร้อยเพชรเส้นยาวที่ประดับท้องฟ้าไม่มีผิด"ต้นไม้ดูเหมือนจะเตลิดไปไกล "ฉันว่านะ เราไม่ต้องเคลื่อนที่ได้จริงๆหรอก เพราะจินตนาการของเราก็พาเราไปได้ทุกหนทุกแห่งอยู่แล้ว" ตึกสรุป
"จริงซินะ"ต้นไม้เห็นด้วย จากนั้นพวกเขาก็สนุกกับความคิดฝันต่อไปอย่างไม่รู้จบ

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ควรวาดการ์ตูนด้วยโครงสร้างของท่าทาง


การวาดการ์ตูนควรเรียนรู้ตั้งแต่โครงสร้าง การละเลยเรื่องโครงสร้างอาจจะดีตรงที่ทำให้เกิดความเครียดน้อยลง หรือทำให้วาดรูปได้เป็นอิสระขึ้น แต่สุดท้ายเมื่อต้องการวาดอะไรที่นอกเหนือไปจากความเคยชินก็ไม่สามารถสร้างด้วยตนเองได้ การเรียนรู้เรื่องโครงสร้าง จะช่วยให้เราสามารถดัดแปลงตัวการ์ตูนของเราได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เราสร้างสิ่งใหม่ๆที่แปลกออกไปได้

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552

การเขียนการ์ตูนที่ถูกต้อง

การเขียนการ์ตูนที่ถูกต้อง ต้องเริ่มที่การทำความเข้าใจการ์ตูนที่จะวาดให้สร้างความรู้สึกเป็นสามมิติให้ได้ แม้ภาพจะอยู่ในรูปแบบของสองมิติก็ตาม เมื่อเข้าถึงและเข้าใจให้เป็นสามมิติได้ จะวาดการ์ตูนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนสไตล์ไหนก็ตาม .. ติดตามคราวหน้า